燦然賛歌 / 浦島坂田船【Thai Translation】
燦然賛歌 (Sanzensanka) / Urashimasakatasen
บทเพลงสรรเสริญแห่งความรุ่งโรจน์【เนื้อเพลงแปลไทย】
เนื้อเพลง & ทำนอง : 烏屋茶房
เรียบเรียง : Powerless
ภาพประกอบ : MACCO
ตัดต่อภาพเคลื่อนไหว : まきのせな
อธิบายและตีความ(ความเห็นส่วนตัว)
เพลงนี้จะอ้างอิงถึงช่วง Bunmei-kaika ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ยุคเมจิ ช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นเริ่มเปิดรับวัฒนธรรมจากประเทศฝั่งตะวันตก และปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมใหม่ๆ ยกเลิกสิ่งที่ดูล้าสมัย หลังจากปิดประเทศมานานในยุคเอโดะ จาก MV ก็จะเห็นได้เลยว่าบรรยากาศในยุคนั้นจะมีอะไรที่ดูเป็นตะวันตกมากกว่าญี่ปุ่นในยุคก่อนๆ เช่น บ้านเรือน เสาไฟข้างถนน เสื้อผ้า กระเป๋าที่ชิมะซังถือ
ยุคเมจิของญี่ปุ่น คือยุคแรกของญี่ปุ่นสมัยใหม่ จุดเน้นของเพลงนี้คือ การจุดประกายไฟแห่งความหวัง ส่วนตัวตีความได้ว่า เป็นเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหลังจากทำผิดพลาดไปมากมาย เนื่องจากตามประวัติศาสตร์แล้วช่วงนั้นถือเป็นการฟื้นฟูอำนาจของจักรพรรดิญี่ปุ่นจากหลังถูกโชกุนปกครองมาเนิ่นนาน และได้เริ่มต้นใหม่หลายๆ อย่าง เช่นการปรับตัวเข้ากับยุคสมัยใหม่นั่นเองค่ะ
---------------------------------------------------------------------
斜陽に溶け行く溜息と
ลมหายใจหลอมรวมกับอาทิตย์อัสดง
ほつれたままの赤い糸
พร้อมด้วยเส้นด้ายสีชาดที่หลุดลุ่ย
やがて来る夜が僕らを隔ててく
ท้ายที่สุดแล้ว ราตรีที่กำลังย่างกราย จักแยกสองเราให้ไกลห่าง
諸行は無常と嘯けど
แม้นจักคุยโวไว้ว่า ทุกสิ่งล้วนไม่เที่ยงแท้ หากแต่
物悲しき茜色
สีแดงชาดนั้นกลับยิ่งตรอมใจทุกข์
この手伸ばせど 名前を呼べど
แม้นหยิบยื่นมือออกไป แม้นเรียกขานนามของเจ้า
黄昏の君の
ถึงเพียงนั้นโครงใบหน้าเสน่หาของเจ้าในยามโพล้เพล้
愛し面影は既に暗がりの中
กลับถูกฝังกลบโดยความมืดสลัวไปหมดสิ้น
さんざ焦がれ万難の果て近づけど
แม้นจักใกล้ถึงจุดจบความทุกข์ยากของเจ้าผู้ที่ข้าโหยหา
万般ただ 邯鄲の夢と知ってなお
แม้นข้านั้นจักรู้ว่าทุกสิ่งเป็นเพียงห้วงฝันอันเปล่าประโยชน์
宵闇の中陽は沈み果てど
แต่ในตอนที่ตะวันยามพลบค่ำกำลังลับขอบฟ้า
この想いまで消せなどしない
ข้าจักไม่มีวันหลงลืมความรู้สึกนี้ไปเป็นอันขาด
灯せ パッ、パッ
จุดประกายไฟ ปัง ปัง
夜を照らす光を
ส่องสว่างในค่ำคืนที่มืดมิด
パッ、パッ
ปัง ปัง
燃える灯の輝きを
ให้ตะเกียงไฟนี้ลุกโชนและส่องประกาย
瞬く綺羅星を (月の明かりを)
ให้เป็นดั่งดวงดาวระยิบระยับ (ดั่งแสงของดวงจันทรา)
君の心に (消えることのない)
เพื่อให้ดวงใจของเจ้านั้น (ไม่สลายหายไป)
希望の火を灯せ
จุดประกายไฟแห่งความหวัง
そうさ パッ、パッ
เป็นเช่นนั้น ปัง ปัง
春風を告げるように
ราวกับแจ้งข่าวแก่สายลมแห่งวสันตฤดู
パッ、パッ
ปัง ปัง
桜の花の咲くように
ราวกับดอกซากุระที่ผลิบาน
いざ歌え夜明けの歌を
เอาล่ะ ขับร้องบทเพลงในยามใกล้รุ่งกันเถิด
眩く光れ 文明開化
ให้มันสว่างจนตาพร่าไปเลย Bunmei-Kaika*
(*การเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นในยุคเมจิ)
ご覧、世界はこんなにも
พึงมองเถิด โลกใบนี้น่ะ
煌めいているよ眩く
เปล่งประกายเสียจนตาพร่าขนาดนี้แล้วนะ
一夜一夜踊りましょう
ไม่ว่าจะราตรีไหน ๆ ก็จงมาเต้นรำด้วยกันเถิด
新しい時代を
เริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยการ
ワン・トゥ・スリイで
นับหนึ่ง สอง สาม
手と手を繋ぎあって
ประสานฝ่ามือเข้าด้วยกัน
心は混ざりあって
ผสานหัวใจเป็นหนึ่งเดียวกัน
目と目を合わせたら動き出す
มองสบนัยน์ตาคู่นั้นแล้วจักขยับเรือนร่าง
止まったはずの 時計は今
นาฬิกาเรือนที่ควรหยุดเดินแล้ว
音を立てて 奏でる
ตอนนี้มันกลับส่งเสียงขึ้นอีกครา บรรเลงท่วงทำนอง
夢現のその先を
ก่อนที่สติจักเลือนหายไปจากร่าง
そうさ、明けない夜などないだろう?
เยี่ยงนั้นแล้ว ค่ำคืนที่ไม่ส่องสว่างคงไม่มีอยู่แล้วใช่หรือไม่?
例え何度暗闇に閉ざされて
ตัวอย่างเช่น กี่คราแล้วที่ถูกปกคลุมด้วยความมืดมิด
何度離れ離れにされようと
กี่คราแล้วที่ถูกพรากให้ห่างจากกัน
消えないこの想い (繋いだ祈り)
หากแต่ความรู้สึกนี้ก็ไม่จางหาย (คำอธิษฐานที่เชื่อมโยงกัน)
暗がりの浮世 (人は変えられる)
บนโลกที่แสนมัวหมองนี้ (มนุษย์จักเปลี่ยนแปลงมันได้)
希望の火を灯せ
จุดประกายไฟแห่งความหวัง
そうさ パッ、パッ
เป็นเช่นนั้น ปัง ปัง
まるで愛を告げるように
ราวกับป่าวประกาศความรักออกไป
パッ、パッ
ปัง ปัง
桜の花の咲くように
ราวกับดอกซากุระที่เบ่งบาน
色づく世界の真ん中で
ท่ามกลางโลกใบนี้ที่แต่งแต้มไปด้วยสีสัน
出会う僕らの 文明開化
ณ ที่ตรงนั้นเราสองได้พานพบกัน Bunmei-Kaika*
(*การเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นในยุคเมจิ)
もう一度ここから始めよう
เริ่มต้นใหม่กันเถิด แม้นอีกสักครา
さぁ!
เริ่ม!
Comments
Post a Comment